วันเสาร์, 30 มีนาคม 2567

ผู้ว่าฯนราธิวาส เน้นย้ำต้องหยุดการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.64 ที่ผ่านมา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนที่อำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมตรวจเยี่ยม พบปะและให้กำลังใจกำลังพล ที่ ต.มูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก

ทั้งนี้นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์พร้อมมอบนโยบาย และกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก -ลก กำลัง 3ฝ่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยมีประเด็นสำคัญที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเน้นย้ำ คือ  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลัง ทำให้การลักลอบเข้าเมืองทำได้ยากที่สุด ให้น้อยที่สุด และทำไม่ได้เลย เพื่อให้การควบคุมบุคคลที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในวงจำกัดที่สุด เพราะแนวโน้มสถานการณ์ในขณะนี้พบว่าผู้ที่ลักลอบเข้ามาทั้งคนไทย และคนต่างสัญชาติจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาด้วยจึงต้องควบคุมป้องกันและสกัดกั้นตั้งแต่ต้นทาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เครือข่ายทุกภาคส่วนต้องช่วยกันตรวจตราสอดส่องพื้นที่และแจ้งเบาะแสทันทีที่พบเห็นบุคคลลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

อีกทั้งหากพบเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเรียกรับผลประโยชน์หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำบุคคลจากประเทศมาเลเซียเข้ามาอย่างผิดกฎหมายจะดำเนินการลงโทษอย่างหนักทันที ซึ่งนับจากนี้จะติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยหากภายใน2-3 สัปดาห์นี้ยังไม่สามารถหยุดการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย หรือ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาจากบุคคลที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น ก็จะนำปัญหานี้เข้าสู่ที่ประชุมEOCจังหวัดนราธิวาส เพื่อกำหนดแนวทางการล็อคดาวน์และปิดช่องทางเข้าออกของ3อำเภอชายแดน คือ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอตากใบ และ อำเภอแว้ง แล้วนำเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)พิจารณาทันที เพื่อหยุดการเคลื่อนย้ายของกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะนำเชื้อไปแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดอื่นๆต่อไป.

————————–