วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ฎีกายืนประหารบังฟัตกับพวก ฆ่ายกครัว 8 ศพ ผู้ใหญ่บ้าน ใน จ.กระบี่

19 มี.ค. 2021
610

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา โดยอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากศาลจังหวัดกระบี่ ไปยังเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช คดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต , นายคมสรรค์ เวียงนนท์ , นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ , นายอรุณ ทองคำ , นายประจักษ์ บุญทอย , นายธนชัย จำนอง , นายธวัฒชัย บุญคง และนางชลิดา สังข์โชติ จำเลยที่ 1-8 ภายหลังร่วมกันวางแผนฆ่ายกครัวนายวรยุทธสังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ อดีตผู้ใหญ่บ้านที่บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่โดยมีผู้เสียชีวิต รวม 8 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ต่อเนื่องวันที่ 10 กรกฎาคม 2560

โดยทางครอบครัวของนายวรยุทธ รวม 8 คน ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกระบี่ ในครั้งนี้ด้วย แต่ศาลไม่อนุญาตให้เข้าร่วมฟังในห้องพิจารณาคดี โดยนัดแยกให้มาฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 24 เมษายนนี้

ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ลงโทษประหารชีวิตนายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต รวมทั้งจำเลยที่ 2-7 เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 7 เป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น รวมทั้งให้จำเลยทั้ง 7 จ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิตทุกคนตั้งแต่วงเงิน 4 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 8 นางชลิดา พิพากษายืน ลงโทษจำคุก 12 เดือนเช่นเดิม เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการลงมือฆ่า

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 โดยบังฟัตพร้อมพวก ได้บุกเข้าไปในบ้านพักของนายวรยุทธก่อนจะจับสมาชิกในครอบครัวมัดไว้แล้วลงมือฆ่า ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นมีผู้รอดชีวิต 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุเพียง 3 เดือน ส่วนสาเหตุเกิดจากความขัดแย้งเรื่องโฉนดที่ดิน ที่พ่อตานายวรยุทธ นำไปจำนองไว้กับบังฟัต กระทั่งมีการผ่อนชำระหมด แต่บังฟัต ได้นำที่ดินไปจำนองไว้กับธนาคาร ไม่สามารถนำที่ดินกลับมาคืนให้ได้ โดยมีการทวงถามกันหลายครั้งจนกลายเป็นความขัดแย้ง บังฟัตจึงวางแผนก่อเหตุจัดฉากว่านายวรยุทธ เครียดเรื่องหนี้สินลงมือฆ่าคนในครอบครัว แล้วฆ่าตัวตายตาม

ซึ่งภายหลังครอบครัวนายวรยุทธ ซึ่งประกอบด้วย นางอาส้า บุตรของนางจินตนา และนางอัญชลี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 เหยื่อที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆาตกรรมยกครัวครั้งนั้น ระบุว่า รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ร่วมฟังคำพิพากษา แต่ก็ขอบคุณที่ศาลให้ความยุติธรรมต่อครอบครัว เนื่องจากตลอดเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหนักต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักถึง 8 คน และยังต้องแบกรักหนี้สินที่บังฟัต นำบ้านที่เกิดเหตุไปจำนองกับธนาคาร จนบ้านที่เป็นสมบัติเพียงอย่างเดียว ถูกยึด

ขณะที่เหยื่อซึ่งรอดชีวิตอีก 2 คน ที่เป็นบุตรสาวของนางอัญชลี และ ด.ช.นาบิ้นสังหลัง ทายาทที่เหลือเพียงคนเดียวของนายวรยุทธนั้น แม้เวลาจะผ่านมาเกือบ 4ปีแล้ว แต่ทั้งสอง ก็ยังไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยังคงต้องพบแพทย์เพื่อประเมินสภาพจิตใจทุกเดือน

 

———————