วันอังคาร, 19 มีนาคม 2567

“ท่านเวาะห์โต๊ะกือป๊ะ” ผู้เป็นที่เคารพของคนไทยพุทธและไทยมุสลิม

จังหวัดชายแดนภาคใต้คือดินแดนสังคมพหุวัฒนธรรม เป็นพื้นที่ซึ่งมีการอยู่ร่วมกันของผู้คนต่างศาสนา และต่างวัฒนธรรม อันมีหลักฐานเชิงสัญลักษณ์ปรากฏให้เห็นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัด มัสยิดหรือชุมชนบางหมู่บ้านที่ชาวพุทธและมุสลิมยังคงพึ่งพาอาศัยกันดุจพี่น้อง ตั้งแต่ครั้งอดีตจวบจนปัจจุบัน

หนึ่งในเรื่องราวของ“พระเรวัตร ถิรสัทโธ” หรือ”ท่านเวาะห์โต๊ะกือป๊ะ”อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดเทพนิมิต หรือที่ชาวบ้านไทยพุทธ-มุสลิมเรียกกันติดปากว่า “ท่านเวาะห์”ที่น่าติดตามและเรียนรู้ยิ่งนัก

วัดเทพนิมิตหรือวัดบ้านกลาง อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี เป็นศูนย์รวมน้ำใจของพี่น้องไทยพุทธในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ทว่าหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ปีเหตุปล้นปืนค่ายทหารเมื่อมกราคม 2547 เป็นต้นมา ทำให้ในช่วง 16 กว่าปีที่ผ่านมา ชาวไทยพุทธบางส่วนพากันอพยพย้ายถิ่นหนีความรุนแรง

วัดจึงตั้งอยู่กลางชุมชนมุสลิมแทน ถัดจากนั้นจึงเป็นชุมชนไทยพุทธรายล้อมอีกชั้นหนึ่ง สภาพของวัดจึงเป็นเหมือนพื้นที่ไข่แดงที่ผสานสามัคคีของพี่น้องต่างศาสนิกให้อยู่ร่วมกัน

ความรุนแรงที่กระทำต่อทุกคนอย่างไม่เลือกหน้า แม้แต่พระลูกวัดก็ยังเคยโดนคนร้ายลอบโจมตีขณะออกบิณฑบาตพร้อมกับกำลังทหารพรานอารักขา ทำให้วัดเทพนิมิตถูกทิ้งร้างนานหลายปี

กระทั่งวัดกลับมาเป็นที่พึ่งและยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธอีกครั้ง เมื่อมีเจ้าอาวาสรูปใหม่เข้ามาทำหน้าที่เมื่อปี 2554 คือ พระอาจารย์เรวัต ถิรสัทโธ หรือ “ท่านเวาะห์” จากวัดตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ท่านเวาะห์เป็นพระที่ทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมให้ความเคารพ

“ท่านเวาะห์โต๊ะกือป๊ะ” หรือ พระอาจารย์เรวัต ถิรสัทโธ อายุ 55 ปี บวชมากว่า 30 พรรษา พื้นเพเป็นชาวอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีญาติพี่น้องและเพื่อนเป็นมุสลิมจำนวนมาก ท่านเดินธุดงค์และจำพรรษาหลายแห่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนพื้นที่รู้จักท่านดีในฐานะพระนักพัฒนา

“ท่านเวาะห์โต๊ะกือป๊ะ” ซึ่งเป็นภาษายาวี พระเรวัตร อธิบายให้ฟังว่า“ท่านเวาะห์ นั้นเป็นชื่อทางสงฆ์ที่ชาวพุทธเรียก ส่วน โต๊ะ เป็นคำเรียกของคนมุสลิมในพื้นที่ ซึ่งมีความหมายว่า ครู ในขณะที่คำว่า กือป๊ะ แปลว่า ขวาน ดังนั้นจึงกลายเป็นชื่อที่เขาเรียกกันติดปากในหมู่คนพุทธและคนมลายูในชายแดนใต้ว่า ท่านเวาะห์โต๊ะกือป๊ะ

“ฉันเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสเมื่อเดือนสิงหาคม (ปี 2561) ก่อนหน้านั้นอยู่ที่วัดตุยง อ.หนองจิก อยากมาเป็นตัวเชื่อมให้ชาวบ้านพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันได้ คนที่ไปจากชุมชนก็ให้กลับมา โดยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฏหมาย เมื่อครบเวลาก็ออกมาอยู่ในชุมชน

ตามหลักการศาสนาคือการตักเตือนกันและกัน เขาจะปฏิบัติหรือไม่คือเรื่องของเขา เราทำหน้าที่ของเรา การเข้าหาคนคือการเข้าไปนั่งในใจเขาให้ได้”

สิ่งหนึ่งที่ปฏิบัติมาทุกปีจนเกิดเป็นภาพประทับใจ การที่ท่านเวาะห์ได้แจกเงิน (ซะกาต) ให้กับลูกหลานชาวมุสลิมใกล้ๆ วัดเทพนิมิตในช่วงวันฮารีรายอของทุกปี จนทำให้ท่านผู้เป็นที่เคารพของคนไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ได้อย่างสนิทใจ

ในวันฮารีรายอปีนี้ก็เช่นกัน (13 พฤษภาคม 2564) ท่านจะนำเงินมาแจกเด็กๆ มุสลิมในพื้นที่ ท่านถือว่าทุกคนคือคนไทยร่วมผืนแผ่นดินเดียวกัน รักกันสามัคคีกัน เคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ท่านเคยกล่าวว่า “ไม่ว่าศาสนาใดๆ ก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือการช่วยให้ทุกคนพ้นจากบ่วงของความทุกข์ และสอนให้ทุกคนเป็นคนดี อดีตที่ผ่านมา เราคนไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกัน มุสลิมมาช่วยงานบุญคนพุทธ คนพุทธก็ไปร่วมงานมุสลิม”

ท่านเวาะห์โต๊ะกือป๊ะหรือพระอาจารย์เรวัต ถิรสัทโธ เป็นพระนักพัฒนาแล้วยังเป็นโซ่สายสัมพันธ์ให้สังคมพหุวัฒนธรรมอยู่ร่วมกันอย่างสันติในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย

ขอบคุณที่มา : WWW.Facebook.com/เกษม ลิมะพันธุ์ : สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย