วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

อ.สุไหงโก-ลกยกระดับป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

16 มิ.ย. 2021
417

วันที่ 15มิ.ย.64 ที่ห้องประชุม ดร.เจษฎา ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลกประชุมคณะทำงานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อำเภอสุไหงโก-ลก (ศบค.อ.สุไหงโก-ลก) เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในพื้นที่หลังพบผู้ติดเชื้อ และกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจัยสำคัญเกิดจากคนไทยในประเทศมาเลเซียลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายโดยไม่รายงานตัวเข้ากักตัว ณ สถานกักกันของรัฐ ซึ่งอัตราความเสี่ยงผู้ที่เดินทางกลับจากมาเลเซียปัจจุบันคือ 10 รายพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย

 และการเดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาทิ กรณีคนไทยในมาเลเซียลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติที่อำเภอแว้ง เรียกรถรับจ้างให้มาส่งที่ บขส.สุไหงโก-ลก แต่ อส.อำเภอสุไหงโก-ลกที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เห็นพฤติกรรมผิดสังเกตจึงเรียกตรวจแล้วนำเข้าศูนย์พักคอยสนามกีฬามหาราช แต่พบว่ามีอาการป่วย และอ่อนเพลียจึงนำเข้าตรวจที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลกแล้วพบว่าติดเชื้อโควิด-19

และรายล่าสุดคนไทยอยู่ในตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก ทำงานขายผักในประเทศมาเลเซียเดินทางเข้า-ออก ไทย-มาเลเซียผ่านช่องทางธรรมชาติ เดือนละ 1-3 วัน  ได้เดินทางกลับมาเมื่อที่11 มิถุนายน 2564 เริ่มมีอาการไข้ ไปตรวจหาเชื้อแล้วพบว่าติดเชื้อโควิด-19

ส่วนอีกรายคือลูกจ้างร้านไทยเซ็นเตอร์ซุปเปอร์มาร์เก็ต เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่ติดเชื้อจากญาติในตำบลเอราวัณอำเภอแว้ง และมีอีก4 รายที่พักอาศัยอยู่ในอำเภอสุไหงโก-ลกที่มาจากคลัสเตอร์เดียวกันซึ่งอยู่ระหว่างการยืนยันผลตรวจรอบ 2 โดยกลุ่มนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าสอบสวนโรคและกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแล้ว

ขณะที่มีผู้ติดเชื้อเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ จำนวน 2 ราย โดยตรวจเจอขณะอยู่ในสถานกักกันของรัฐ ดังนั้นอำเภอสุไหงโก-ลก จำเป็นต้องยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยการเสริมกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก เขตเมืองชั้นในและบริเวณจุดตรวจทางเข้าหมู่บ้าน ตำบล เป็นเวลา 15 วัน โดยนำอส.อำเภอสุไหงโก-ลกเข้าไปร่วมปฏิบัติการกับทหารชุดป้องกันชายแดน ระหว่างวันที่ 16-30 มิถุนายน 2564 ตั้งแต่เวลา 20.00-06.00น.ของวันถัดไป กรณีพบเรือเข้ามาในพื้นที่ให้สกัดจับและยึดเรือทันที

ส่วนคนไทยที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ กรณีเดินทางเข้ามาอำเภอสุไหงโก-ลก หากเป็นผู้ที่รับวัคซีน เข็มที่ 2 ก่อนเดินทางกลับมา30วันพร้อมใบรับรองการตรวจโควิด-19ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ให้รายงานตัวกับสาธารณสุขอำเภอสุไหงโกลกโดยไม่ต้องกักตัวที่สถานกักกันของรัฐ(Local Quarantine) แต่หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าวต้องรายงานตัวแล้วเข้ากักตัวที่สถานกักกันของรัฐทุกราย

ส่วนในกรณีเดินทางข้ามจังหวัดในพื้นที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกเหนือจากนี้ต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสุไหงโก-ลกทุกราย เพื่อรับการตรวจประเมินเข้าสถานกักกันของรัฐ หรือกักตัวที่บ้าน หรือสังเกตอาการ โดยยึดตามพฤติกรรมเสี่ยง และพื้นที่เสี่ยงเป็นรายบุคคล

และหากผู้ใดเข้ามาโดยไม่รายงานตัว หรือรายงานตัวแล้วไม่ปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำหนด หากบุคคลดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายตามมาตรา52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1ปี หรือปรับไม่เกิน1แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามมาตรา18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน2ปี หรือปรับไม่เกิน4หมื่นบาท หรือทั่งจำและปรับ นอกจากนี้จะเพิ่มการตรวจตราบุคคลที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าในพื้นที่สาธารณะจะระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท โดยมีอัตราเปรียบเทียบปรับ ดังนี้ ทำผิดครั้งที่1 ไม่เกิน 1,000 บาท ครั้งที่ 2 มากกว่า 1,000บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ครั้งที่3 เป็นต้นไป มากกว่า 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000บาท โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่8 มิถุนายน 2564 ซึ่งอำเภอสุไหงโก-ลกได้เริ่มเปรียบเทียบปรับตามที่ได้รับการร้องเรียนมาแล้ว จำนวน 5 ราย

ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่การ์ดอย่าตก ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง ล้างมือทุกครั้งที่ออกจากบ้าน งดการรวมตัวพบปะสังสรรค์หรือทำกิจกรรมร่วมกัน และหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่แออัด

——————————