วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ร่วมขับเคลื่อนนำสันติสุขอย่างยั่งยืน

27 ส.ค. 2022
900

หน.คณะพูดคุยสันติสุข จชต.ประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่(สล.3) ความคืบหน้า การดำเนินการพูดคุย สถานการณ์ภาคใต้ล่าสุด เหตุระเบิดป่วน ชายแดนใต้ สมาพันธ์ไทยพุทธ จชต.ยืนหนังสือ ขอความสงบสันติสุข กลับคืนมา

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา  ที่โรงแรม ปาร์คอินทาว อ.เมือง จ.ปัตตานี หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คพส.) นำโดย พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข พลโท​ธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 เปิดประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่ ครั้งที่ 7 โดยมีกลุ่มผู้ประสานงานทั้ง 8 กลุ่ม เข้าร่วมกว่า 200 ท่าน

โดยที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องความคืบหน้า การดำเนินการพูดคุย สถานการณ์ภาคใต้ล่าสุด รวมถึงมีการพูดคุยตั้งข้อสังเกตุ และข้อเสนอในเรื่องสถานการณ์ความรุนแรง ใน 3 จังหวัดล่าสุดด้วย มีการเสนอเป็นรายจังหวัด ในที่ประชุมยังมีการยื่นหนังสือข้อเสนอจากกลุ่มสมาพันธ์ชาวไทยพุทธ จชต.ยืนหนังสือขอความสงบสันติสุขกลับคืนมา และเรื่องยุติความรุนแรงนำสันติสุข และเรื่องการทำงานในพื้นที่ ความถดถอยชาวไทยพุทธ และกลุ่มสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยื่นข้อเสนอด้วยซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ 5 ครั้ง

ล่าสุดครั้งที่ 5 เมื่อ1 – 2 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้ผลสรุปสำคัญ 2 ข้อ คือ การลดความรุนแรง ระยะที่ 2 เพื่อ ต่อยอดรอมฎอนสันติสุข โดยจะมีการหารือกันในรายละเอียดในการประชุมคณะทำงานทางเทคนิคเร็วๆนี้ และ อีกเรื่องคือ ดำเนินการจัดตั้งคณะติดตามสถานการณ์ร่วม และมีกลไกการปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่คู่ขนานไปด้วย ซึ่งมีผลถึงกลุ่มขบวนการให้ปรับเปลี่ยนแนวทางในการต่อสู้ จากการใช้ความรุนแรงมาสู่การต่อสู้ด้วยสันติวิธีมากขึ้น และมีการพูดคุยในประเด็นสารัตถะ เพื่อนำไปสู่การยุติความรุนแรง ซึ่งทำให้เหตุการณ์ที่ลดลงอย่างมากในห้วงรอมฎอนสันติสุขเป็นการพิสูจน์ทราบได้ว่า กลุ่ม BRN บนโต๊ะเจรจามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มกองกำลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสุดท้ายประเด็นนโยบายแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 3 แนวทางของรัฐบาล(ความมั่นคง การพัฒนา และการพูดคุยฯ) ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงใน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับการพูดคุยก็เป็นข้อเสนอของรัฐบาลเพื่อหาแนวทางสันติวิธี ซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมรับ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ประชาชนลดความเชื่อมั่น แต่ยังคงคาดหวังในการพูดคุยสันติสุขต่อไป

พลเอกเอก  วัลลภ กล่าวอีกว่า หลายๆองค์กรก็ยังพยายามใช้แนวทางความรุนแรงอยู่ ซึ่งเราให้ปรับเปลี่ยนการใช้ความรุนแรง มาใช้แนวทางสันติ แต่ถ้าใช้ความรุนแรงก็ได้รีบผลกระทบเป็นวงกว้าง และประชาชนก็ออกมาประณาม และต่อต้านการใช้ความรุนแรง ส่วนเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเรายังไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใดชัดเจน แต่วงการประชุมทุกฝ่ายก็ยืนยันมุ่งมั่นในการพูดคุยหาทางออกร่วมกันได้

ด้าน สล.3 ก็กำลังศึกษาด้านที่เขาเสนอ แล้วก็ฝ่ายเราเสนอ แต่บทสรุปยังไม่ชัดเจน ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ที่ผ่านมาเราก็พยายามพูดคุย แต่สิ่งที่เราต้องการคือการลดความรุนแรง เราจะพยายามถึงจุดนั้นให้ได้ ส่วนในครั้งที่ 6 ที่จะมีการพูดคุยสันติสุข ก็จะเป็นการร่วมมือทั้ง 2 ฝ่ายจะทำให้มีประสิทธิภาพควบคุมความรุนแรง.

พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น อันดับแรกจะต้องรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจน นำผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในที่สุด อย่างไรก็ตามไม่ว่ากลุ่มไหนที่ก่อเหตุความรุนแรง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะมีด้านสังคม เศรษฐกิจ ซึ่งสถานการณ์โควิด19 ที่ผ่านมาก็เพิ่งผ่านพ้นไป เศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ก็ได้รับผลกระทบ ตนก็ขอประณานการก่อเหตุความรุนแรง ซึ่งการก่อเหตุอย่างนี้ได้รับผลบกระทบทั้งกลุ่มเด็กและสตรี ก็เป็นการละเมิดสิทธิ์

—————————-