วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

ประวัติโชกโชน นายอับดุล สอเหร็ม เหตุบังคับใช้กฎหมาย วิสามัญคนร้ายที่เทพา พบมีหมายจับคดีความมั่นคง 14 หมาย

คืบหน้าเหตุปิดล้อมวิสามัญแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบเสียชีวิต 1 ราย ที่ อ.เทพา จ.สงขลา พบผู้ตายมีประวัติโชกโชน และมีหมายจับในคดีความมั่นคงรวม 14 หมาย ทั้งคดีปล้นเต็นท์รถวังโต้ นาทวี และลอบวางระเบิดอีกหลายคดี

วันที่ (25 ต.ค.) ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีความมั่นคงและคดีพิเศษ รวมทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการปิดล้อมบ้านพักต้องสงสัยในพื้นที่ ม.7 บ้านควนติหมุน ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ห่างจากถนนสายเทพา-ปัตตานี เข้าไปราว 1 กิโลเมตร หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบคนสำคัญเข้ามาหลบซ่อนพักพิง ก่อนเกิดการยิงปะทะเป็นเหตุให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย

ล่าสุด หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อีโอดี ฉก.อโณทัย และชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าเคลียร์พื้นที่ และตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญคือ นายอับดุล สอเหร็ม อายุ 32 ปี โดยเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้าลงกับพื้น สวมผ้าถุงผืนเดียว ไม่ใส่เสื้อ และสะพายกระเป๋าข้างลายพราง 1 ใบ โดยที่ในมือขวายังกำอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. เอาไว้แน่น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติของ นายอับดุล สอเหร็ม พบว่ามีประวัติโชกโชน โดยมีหมายจับในคดีความมั่นคงมากถึง 14 หมาย และเคยก่อเหตุสร้างความเดือดร้อน และความสูญเสีย ทำให้มีได้รับผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

โดยมีคดีที่สำคัญ เช่น คดีปล้นรถจากเต็นท์รถวังโต้คาร์เซ็นเตอร์ อ.นาทวี จ.สงขลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย คดีลอบวางระเบิดรถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่ อส.ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย คดีลอบวางระเบิด นายสุทธิศักดิ์ หมีนเส็น ได้รับบาดเจ็บสาหัส และคดีลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ร้อย ร.2531 ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นเรศวร 261) ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นาย คือ ส.ต.อ.นำโชค สุวรรณ ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาขวา นำส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร และส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ จ.ส.ต.อัมรินทร์ หนูโงน ถูกกระสุนปืนถากบริเวณศีรษะด้านขวา นำส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร และส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ ภายในศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขณะนี้อยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว

ด้าน พล.ท.ศานติ สกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมเน้นย้ำว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความต้องการที่จะหมายเอาชีวิตคนร้ายแต่อย่างใด แต่เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากคนร้ายไม่ยอมออกมามอบตัว กลับยิงต่อสู้จนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บถึง 2 นาย สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจะเร่งดำเนินการให้หน่วยต้นสังกัดดำเนินการดูแลด้านสวัสดิการอย่างรวดเร็วที่สุด ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป

พร้อมกับขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ จนนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายในครั้งนี้ ซึ่งหากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย หรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 06-1173-2999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

—————————